15 มิ.ย. 2565ยาว 1 นาที

สารจากประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล / ประธานจัดงาน Friendly Design Expo 2022 (ครัั้งที่6)

สถานการณ์โควิด-19 กำลังคลี่คลายลงไปอย่างต่อเนื่อง การกระตุ้น และฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเดินหน้าไปอย่างแข็งขัน กระแสการเดินทางท่องเที่ยวกำลังจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง และมีแนวโน้มจะขยายตัวมากขึ้นกว่าเดิม เหตุเพราะอัดอั้นกันมายาวนานกว่า 2-3 ปี การจัดงานอีเว้นท์ และกิจกรรมการพบปะสังสรรค์ในแบบวิถีปกติใหม่ กำลังกลับมาเบ่งบานและเฟื่องฟู

มูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล และพันธมิตรกว่า 120 องค์กร จากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จึงได้เตรียมพร้อมในการจัดงานต้อนรับการกลับมาเยี่ยมเยือนเมืองไทยอีกครั้งของผู้คนจากทั่วโลก ในงาน “Thailand Friendly Design Expo 2022 : มหกรรมอารยสถาปัตย์ และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 6” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 15-18 ธันวาคม พ.ศ.2565 ณ ฮอลล์ 102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค-บางนา กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันสนับสนุนนโยบายรัฐบาล และทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของนานาประเทศทั่วโลก ในการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ฟื้นฟูธุรกิจการค้า การลงทุน และส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ภายใต้แนวคิด "Friendly Tourism" หรือ "การท่องเที่ยวที่เป็นมิตร" โดยแบ่งออกเป็น 9 ด้าน ดังต่อไปนี้

1.1 เป็นมิตร กับ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly Tourism)

1.2 เป็นมิตร กับ สุขภาพ และการแพทย์ (Health & Medical-Friendly Tourism)

1.3 เป็นมิตร กับ สังคมผู้สูงวัย (Aging Society-Friendly Tourism)

1.4 เป็นมิตร กับ การเข้าถึงได้ของคนทั้งมวล (Accessibility-Friendly Tourism)

1.5 เป็นมิตร กับ ความปลอดภัย (Safety-Friendly Tourism)

1.6 เป็นมิตร กับ วัฒนธรรม (Culture-Friendly Tourism)

1.7 เป็นมิตร กับ ชุมชน (Local-Friendly Tourism)

1.8 เป็นมิตร กับ นวัตกรรม และเทคโนโลยี (Innovation & Technology-Friendly Tourism)

1.9 เป็นมิตร กับ ความยิ่งยืน (Sustainability-Friendly Tourism)

จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ความเป็นมิตร ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว และเมืองที่เป็นมิตร ด้วยการรวมพลังทุกภาคส่วน เพื่อการส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข สะดวก ทันสมัย และปลอดภัย ในการดำเนินชีวิตอย่างชาญฉลาด รวมถึงการทำงาน และการเดินทางพักผ่อนท่องเที่ยว

โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายหลัก 5 กลุ่มสำคัญ คือ 1. ผู้สูงอายุ 2. ผู้ป่วยพักฟื้น 3. ผู้พิการ 4. มนุษย์ล้อ หรือคนที่ใช้รถเข็น 5. ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก (ใช้รถเข็นเด็ก) ร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า และสังคมที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และไม่ทิ้งใครไว้ในรถอีกต่อไป (No one left behind & No one left in the car)