วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2566 คุณเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานกระทรวงวัฒนธรรม ขับเคลื่อน “Soft Power for All : เมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อคนทั้งมวล” และเป็นประธานมอบรางวัล Friendly Design Awards 2023 ให้แก่องค์กรและแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต่างๆ ที่ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาอารยสถาปัตย์เพื่อรองรับคนทั้งมวล ในงาน “Thailand Friendly Design Expo 2023 มหกรรมอารยสถาปัตย์ นวัตกรรมสุขภาพ และการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 7” ณ ฮอลล์ 101 ไบเทค-บางนา กรุงเทพมหานคร
ภายในงาน กระทรวงวัฒนธรรมได้ร่วมจัดแสดงนิทรรศการ และกิจกรรมสาธิตต่าง ๆ เช่น การทำลูกประคบสมุนไพรและการนวดแผนไทยโดยวิสาหกิจชุมชนหัตถศาสตร์เพื่อสุขภาพธัญพืชประคบพูลสุข ตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 สุดยอด เที่ยวชุมชนยลวิถี การสาธิตการทำ “ว่าวจุฬามือถือ” และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน “ตลาดเก่าหัวตะเข้” เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ สืบสานวัฒนธรรมไทย ประจำปี 2566
การสาธิตการผลิต “น้ำหนุมานครองเมือง” โดยวิสาหกิจท่องเที่ยว ชุมชนบ้านไร่สะท้อน (ถ้ำรงค์) จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งจังหวัดเพชรบุรีเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารประจำปี 2564 ขององค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) การสาธิตการอนุรักษ์งานช่างศิลป์ไทยและกิจกรรม WorkShop การเขียนงานเซรามิค (แมคเนท) และการเขียนหัวโขน (ลิงและยักษ์) โดยสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร
นอกจากนี้ยังได้จัดชุดการแสดงเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย จำนวน 2 ชุดได้แก่ การแสดงชุดโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดยกรบ และการแสดงชุดสักการะเทวราช ที่ได้สร้างความประทับใจและความตื่นตาตื่นใจให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมงานกันอย่างล้นหลาม
คุณเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ศิลปวัฒนธรรมเป็นความยิ่งใหญ่สวยงามที่สามารถดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยอย่างมากมาย ดังนั้น การส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็น Soft Power จะนำไปสู่การสร้างรายได้เชิงเศรษฐกิจ ด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมเหล่านี้ จะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับคนไทยที่จะใช้ในการสร้างการรับรู้อย่างกว้างขวางในความงามของประเทศไทยและสร้างรายได้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนต่อไป
เรื่องอารยสถาปัตย์เพื่อการเข้าถึงได้ของคนทั้งมวล รมว.วัฒนธรรม มองว่า มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการออกแบบและจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับรองรับการใช้บริการผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยพักฟื้น หรือผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง ตลอดจนสตรีมีครรภ์ และเด็กเล็ก ให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย สามารถเข้าถึงได้ ใช้ประโยชน์ได้ ในตึกอาคาร สถานที่ รวมถึงศาสนสถานต่างๆ และบริการสาธารณะต่างๆ อย่างเป็นธรรม ทั่วถึง และเท่าเทียม เป็นหลักการออกแบบที่เป็นสากล เป็นธรรม และเป็นมิตรกับคนทั้งมวล หรือ Friendly Design มีความสำคัญจำเป็นอย่างมากในสังคมโลกยุคปัจจุบัน และอนาคตจากนี้ไป ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้มีการผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต่างๆ เช่น วัด ศาสนสถาน พิพิธภัณฑ์ และชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นต้น
“เรามีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เช่น แหล่งท่องเที่ยวในโครงการ 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ สืบสานวัฒนธรรมไทย แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ยลวิถี และเส้นทางแห่งศรัทธา จาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา เช่น เส้นทางสักการะพระบรมธาตุ เส้นทางตามรอยความเชื่อความศรัทธาแห่งลุ่มน้ำโขง รวมทั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์และโบราณสถานในจังหวัดต่างๆ เช่น อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นต้น ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมมีนโยบายปรับปรุงอาคาร ภูมิทัศน์และจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น มีห้องน้ำ ทางลาดสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ เด็กเล็กให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัย เพื่อให้สอดรับกับสังคมไทยในปัจจุบันที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ” รมว.วัฒนธรรม กล่าว
รมว.วัฒนธรรม กล่าวด้วยว่า กระทรวงวัฒนธรรมพร้อมที่จะร่วมมือหน่วยงานต่างๆในการส่งเสริม อารยสถาปัตย์ หรือ Friendly Design ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยและเชื่อมโยงสู่ภูมิภาคอาเซียน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้มีความเข้มแข็ง นำไปสู่การสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ประเทศชาติได้อย่างยั่งยืน
Comments